วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ค่ายบางกุ้ง (ตอนที่ ๕ การสร้างเหรียญพระเจ้าตากสินเผด็จศึกค่ายบางกุ่ง)


          การสร้างเหรียญพระเจ้าตากสินเผด็จศึกค่ายบางกุ้ง

           วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๑๑ ข้าพเจ้าได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อสั่งทำเหรียญ ข้าพเจ้าได้เตรียมเหรียญตัวอย่างแบบต่างๆ และพระบรมฉายาลักษณ์พระเจ้าตากสินไปด้วย  ได้จัดธูปเทียนดอกไม้พวงมาลัยไปถวายสักการะดวงวิญญาณของพระเจ้าตากสินมหาราชที่อนุุสาวรีย์วงเวียนใหญ่  อธิษฐานขอความเป็นสิริมงคลความสวัสดีมีชัย   ปรากฎว่ามีนกฝูงใหญ่บินบ่ายหน้าไปทางเมืองสมุทรสงคราม   ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความมั่นใจมากขึ้น 
          กลับสมุทรสงครามในคืนวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๑๑  ข้าพเจ้าได้ฝันว่ามีเด็กชายคนหนึ่งเป็นเด็กโบราณ อายุประมาณ ๕ ขวบ  ได้วิ่งลงไปที่ชายฝั่งแม่น้ำ  ข้าพเจ้าตกใจเกรงว่าเด็กจะจมน้ำจึงวิ่งตามไป  แต่ปรากฎว่าน้ำในแม่น้ำแห้งขอด  เด็กคนน้้นลงไปในแม่น้ำแล้วก็กลับขึ้นบันไดท่าน้ำโดยปลอดภัย  ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมาก็นึกว่าฝันนี้เป็นนิมิตดีเกี่ยวกับการสร้างเหรียญพระเจ้าตากสิน  เพราะคล้ายเรื่องในประวัติศาสตร์ที่พระเจ้าตากสินยังทรงพระเยาว์  เป็นเด็กวัดเล่นซุกซนพระอาจารย์จึงจับผูกล่ามไว้กับบันไดท่าน้ำแล้วก็จำวัดหลับไป  ตื่นขึ้นมาน้ำท่วมบันไดตกใจรีบไปดูก็เห็นบันไดหลุดลอยน้ำขึ้นมา  พระเจ้าตากสินยังผูกติดกับบันไดลอยน้ำอยู่  เพราะบุญญาภินิหารของพระเจ้าตากสินจึงทำให้บันไดหลุดลอยน้ำไม่เป็นอันตราย  ความฝันนี้ทำให้ข้าพเจ้ามั่นใจมากว่า การสร้างเหรียญพระเจ้าตากสินคร้ังนี้จะมีพุทธานุภาพในทางแคล้วคลาดจากอุปัทวันตราย  
          วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๑๑ ข้าพเจ้าเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อติดตามการทำเหรียญ เป็นการเหมาะสมจริงๆ แม่พิมพ์แกะเสร็จแล้ว  แต่ด้านหลังมีช่องว่างเหลืออยู่  ทำให้ไม่งาม  ข้าพเจ้าจึงควักเหรียญรูปหน้าเสือป่าในสมัยรัชกาลที่ ๖ ให้ช่างแกะตราหน้าเสือในตรงช่องว่างนั้น ด้วยพระเจ้าตากสินมหาราชนั้นเกิดปีขาล  พระองค์ท่านก็นับว่าเป็นยอดทหารเสือไปรบศึกเหนือเสือใต้ไม่เคยแพ้  เมือเสด็จยกทัพมาตีพม่าที่ล้อมค่ายบางกุ้งก็ได้ชัยชนะ  พงศาวดารกล่าวว่า  "พระเกียรติยศปรากฎขจรขจายไปทั่วทุกทิศดุจพระยาไกรราชสีห์อันมีฤทธิ์เป็นที่คร้ามเกรงแก่หมู่สุัตว์ดุจบาททั้งปวง"
          วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๑๑ ข้าพเจ้าพร้อมด้วยนายอากาศ มีสมบูรณ์ ได้ออกนิมนต์พระตามวัดต่างๆซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ  หลวงพ่อวัดจุฬามณี วัดประชาโฆษิตาราม วัดสวนหลวง วัดเจริญสุขาราม เป็นต้น  ท่านเจ้าคุณเทพสังวรวิมล วัดเจริญสุขาราม ท่านกล่าวว่า การทำพิธีควรจะมีการทำพิธีบวงสรวงบอกเล่าเชื้อเชิญเทวดาเขาด้วย ให้เขาอวยชัยให้พร  เทวดาพวกนี้เขามีฤทธิ์ ไม่บอกเล่าเขาไม่ดี ท่านพูดเป็นนัยๆว่า เทวดามี ๒ อย่าง เทวดาที่มองเห็นและเทวดาที่มองไม่เห็น  ข้าพเจ้าจึงเกิดความคิดว่าจะเชื้อเชิญให้ครบถ้วนกระบวนความตามคำแนะนำของเจ้าคุณ  
         ข้าพเจ้าไปนมัสการท่านสมภารเยื่อวัดบางกุ้ง ขอยืมสถานที่และเครื่องใช้ ข้าพเจ้าเรียนกับท่านว่า วัดอื่นก็สะดวกแต่ไม่ใช้  ตั้งใจจะใช้โบสถ์วัดบางกุ้งทำพิธี ถือเป็นนิมิตว่าพระเจ้าตากสินได้เคยเสด็จมาปราบศึกทีนี่ และเล่าความฝันที่ว่าได้เห็นเด็กชายโบราณนั้นให้ท่านฟังด้วย  ท่านสมภารเยื่อฟังแล้วชอบใจมาก 
         
          ข้าพเจ้าได้อาศัยบารมีท่านเจ้าคุณสมุทรโมลี ช่วยนิมนต์พระสวดพุทธาภิเษกจากวัดพระเชตุพนฯได้ ๔ รูป นิมนต์พระอาจารย์ผู้ทรงคุณวิทยาคุณได้อีก ๒ รูป คือวัดบ้านเลือก โพธาราม วัดกาหลง สมุทรสาคร  นิมนต์พระวัดปรกได้ ๑๔ รูป พระสวดพุทธาภิเษกได้ ๔ รูป รวม ๑๘ รูป 
           วันที่  ๒๑ เมษายน ๒๕๑๑ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๙ ค่ำ เดือน ๕ ปีวอก เวลา  ๐๖.๔๕ น. จันทร์เกาะภูมิปาโลฤกษ์  (ฤกษ์ผู้ครองแผ่นดิน ) อาทิตย์บริวารสถิตราศีเมษ เป็นมหาอุจ  อังคารเดชสถิตราศีเมษเป็นเกษตร  พุธเป็นสิริสถิตราศีเมษ เกตุสถิตราศีเมษ  ทั้ง ๔ ดวงนี้กุมลัคนา พฤหัสบดีสถิตราศีสิงห์ ศุกร์กาลกิณี  บัดนี้เป็นมหาอุจสถิตราศีมีนเป็นวินาส  เสาร์มูละสถิตราศีมีน ราหูสถิตราศีมีน ทั้ง  ๓ ดวงนี้เป็นวินาส หนุนลัคนา มฤตยูสถิตราศีกันย์เป็นอริ  ผู้รู้ทางโหราศาสตร์โปรดพิจารณาดูว่าดวงนี้เด่นเพียงใด บริวาร เดช ศรี กุมลัคนา อยู่ราศีเมษ เป็นบุญฤทธิ์เด่นมากอยู่แล้ว  ศุกร์กาลกิณีตัวปรปักษ์หรือปัจจามิตร  ก็เป็นวินาสเสียแล้ว  จะทำอะไรได้ เสาร์ก็เสื่อมฤทธิ์ ราหูก็หมดอิทธิพลทั้งคู่  ไม่ให้โทษมีแต่จะฟื้นขึ้นมาให้คุณหนุนหลังลัคนา  ภูมิปาโลฤกษ์ก็ให้คุณในทางมั่นคงถาวรร่มเย็นเป็นสุข 
          ดวงฤกษ์นี้คล้ายดวงกรุงเทพฯ  หรือดวงชะตาประเทศไทยที่โหรหลวงได้วางไว้ในสมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก  อาทิตย์กุมลัคนา เป็นมหาอุจ  ตั้งแต่ตั้งกรุงเทพฯ พ.ศ.๒๓๒๕ เป็นต้นมา หมู่อมิตรทำอันตรายกรุงเทพฯมิได้เลย   แม้มนตรีใดใหญ่คับเมืองขึ้นมาก็พินาศทุกราย ท่านผู้อ่านประว้ติศาสตร์พงศาวดารกรุงเทพฯ คงได้สังเกตในเรื่องนี้ 
          ท่านผู้รู้อธิบายว่า  โหรโบราณท่านจะให้ฤกษ์ที่สำคัญๆ  ท่านรอให้ดาวทุกดวงไปชุมนุมกันอยู่ในราศีอุตรกุรุทวีป  (มีน เมษ พฤกษ) ทั่งสิ้น  เช่น ดวงกรุงเทพฯ มีดาวอยู่ในราศีอุตรกุรุทวีปถึง ๖ ดวง  รวมท้ังลัคนาด้วย เป็น ๗ ตำแหน่ง  แม้จะมีดาววินาสก็ถือว่าโอบอุ้มลัคนา  ล้อมหน้าล้อมหลังมีกำลังมาก  แม้ดวงชะตาของบุคคลสำคัญ ถ้ามีดวงดาวอยู่ในราศีอุตรกุรุทวีปมาก ก็มักมีบุญฤทธิ์ เช่น พระเจ้าตากสินมหาราช มี ๔ ดวง สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)  มี ๓ ดวง ๔ ลัคนา
นายควง อภัยวงศ์ มี  ๔ ดวง  ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช มี ๕ ดวง   พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มี ๔ ดวง พระจุลจอมเกล้าฯ มี  ๕ ดวง  

          ดวงฤกษ์เหรียญพระเจ้าตากสินเผด็จศึกค่ายบางกุ้งนี้  มีดวงดาวชุมนุมอยู่ในราศีอุตรกุรุทวีปถึง  ๗ ดวง  รวมท้ังลัคนาด้วยเป็น  ๘ ตำแหน่ง เหมือนดวงกรุงเทพฯ  คือ อาทิตย์เป็นมหาอุจกุมลัคนา  ศุกร์กาลกิณีเป็นวินาส ราหูมนตรีเป็นวินาส ทั้ง  ๔ ดวงนี้ เหมือนกัน ดวงกรุงเทพฯยั่งยืนถาวร ศัตรูทำอันตรายมิได้  มนตรีใดมีอิทธิพลเข้ามาบดบังก็มักพินาศไป  ข้าพเจ้าจึงมั่นใจว่า ดวงเหรียญพระเจ้าตากสินเผด็จศึกค่ายบางกุ้งนี้ จะยั่งยืนถาวร ปราศจากซึ่งภัยพิบัติอุปัทอันตราย ศัตรูหมู่ร้ายก็มักแพ้ภัยพินาศเช่นเดียวกัน  

       
         (โปรดติดตามตอนต่อไป) 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น